“AIS Business” ผู้ให้บริการดิจิทัลโซลูชั่นสำหรับภาคธุรกิจ ล่าสุดเดินหน้าจับมือ สวนอุตสาหกรรม 304 และ NPS พร้อมยกระดับการบริหารจัดการโครงข่ายอัจฉริยะ AIS Fibre และ 5G ควบคู่โซลูชั่น Smart Meter ร่วมเสริมศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในพื้นที่สวนอุตสาหกรรม 304 สู่ Smart Industry 4.0 ตอกย้ำบทบาท "Digital Enabler" สร้างความพร้อมในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพ ความเสถียร และความคุ้มค่า ตลอดจนดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมสมัยใหม่
นายสมภพ กิตติวิรุฬห์วัฒน หัวหน้างานปฏิบัติการภูมิภาค-ภาคตะวันออก เอไอเอส กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนบทบาทของเอไอเอสในฐานะ Digital Enabler ที่นำโครงข่ายอัจฉริยะและโซลูชันบริหารจัดการพลังงานมาช่วยเสริมศักยภาพ Smart Industry 4.0 ของสวนอุตสาหกรรม 304 เรามุ่งสร้างโครงข่ายที่เสถียร ปลอดภัย และยืดหยุ่น รองรับการเชื่อมต่อของเครื่องจักร ระบบ IoT และแพลตฟอร์มบริหารจัดการพลังงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม ปัจจุบันเอไอเอสเข้าไปยกระดับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออกและ EEC ด้วย 5G ครอบคลุม 100% ของทุกนิคมอุตสาหกรรม และความพร้อมในการให้บริการเครือข่าย Fibre ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเร่งทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต บริหารต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น สำหรับความร่วมมือกับสวนอุตสาหกรรม 304 และ NPS ในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญต่อการทำงานกับภาคธุรกิจในภาคตะวันออกที่นับว่าเป็นอีกพื้นที่ศักยภาพด้านการผลิต โดยเราได้วาง Digital Infrastructure จากโครงข่ายอัจฉริยะ 5G และ Fiber Optic เพื่อให้พร้อมรองรับและเสริมศักยภาพการบริหารจัดการ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการภายในสวนอุตสาหกรรม 304 สามารถใช้ศักยภาพจากโครงข่ายสัญญาณได้เต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งบริการ Smart Solution ต่างๆ อาทิ 5G Private Network, 5G Smart factory ระบบบริหารจัดการโรงงานอัจฉริยะ, Smart meter , Environment sensor, Smart tracking ระบบอุปกรณ์ติดตามรถ, บริการจัดเก็บข้อมูล on cloud ในรูปแบบ Enterprise Cloud, CCTV and video analytics, Smart parking และอื่น ๆ ที่เรามีความพร้อมในการพัฒนาเพื่อร่วมกันยกระดับภาคอุตสาหกรรมของจังหวัดปราจีนบุรี และฉะเชิงเทราให้มีขีดความสามารถและพร้อมแข่งขันในอนาคตต่อไป”
ด้านคุณกิตติพันธ์ จิตต์เป็นธรรม หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร สวนอุตสาหกรรม 304 กล่าวว่า “สวนอุตสาหกรรม 304 พัฒนาโครงการมาแล้วกว่า 30 ปี ครอบคลุมพื้นที่ 20,000 ไร่ ทั้งในจังหวัดปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 170 บริษัท กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) เยื่อและกระดาษ เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่มีความต้องการใช้น้ำและไฟในการผลิตจำนวนมากรวมถึงพลังงานหมุนเวียน ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก NPS ในการบริหารจัดการสาธารณูปโภคทั้งหมดในโครงการให้ลูกค้าได้รับตามความต้องการและก้าวไปอีกขั้นด้วยการร่วมมือกับ AIS ในการพัฒนาโครงสร้างโครงข่ายอัจฉริยะในครั้งนี้ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับโครงข่ายสัญญาณภายในสวนอุตสาหกรรม 304 ให้เป็น Smart Industry 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อทั้งลูกค้าปัจจุบันและในอนาคตที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการที่มีความเสถียร ปลอดภัย และประสิทธิภาพสูง
ด้านคุณกฤตย์ดิศร กรเกศกมล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงินและการพาณิชย์ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ NPS กล่าวว่า “NPS เรามุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายพลังงานที่มั่นคงและยั่งยืน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการในสวนอุตสาหกรรม 304 รวมถึงการพัฒนาระบบนิเวศของพลังงานหมุนเวียนที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการบรรลุเป้าหมาย Net Zero อย่างรวดเร็ว ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการผลิตตลอดจนการขนส่ง ด้วยไฟฟ้าโซลาร์-ชีวมวลผสมผสาน น้ำอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ และกรีนโลจิสติกส์กว่า 200 คัน ซึ่งความร่วมมือกับ AIS ในครั้งนี้ NPS ได้เพิ่มอีกบทบาทสำคัญในการร่วมบริหารโครงข่ายสัญญาณ AIS Fibre และ 5G ที่จะช่วยเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการภายในสวนอุตสาหกรรม 304 ให้สามารถยกระดับการบริหารจัดการในปัจจุบันไปสู่ระบบอัจฉริยะต่างๆที่จะช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้ เช่น NPS เองก็ได้นำ Smart Meter มาใช้ในการบริหารจัดการพลังงานอีกด้วย”

สวนอุตสาหกรรม 304 และ NPS ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า “การสร้างความร่วมมือกับเอไอเอสคร้ังนี้จะช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและพลังงานของสวนอุตสาหกรรม 304 ให้พร้อมรองรับนักลงทุนเป้าหมายมากยิ่งขึ้น”
นายสมภพ กล่าวในช่วงท้ายว่า “AIS ในฐานะองค์กรเทคโนโลยีโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-CO ยังคงเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลเทคโนโลยีที่สามารถส่งมอบประสบการณ์รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพการทำงานของพาร์ทเนอร์ เพราะเราเชื่อว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีที่แข็งแรงจะมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมและการผลิต ซึ่งจะช่วยยกระดับศักยภาพภาคการผลิตของนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก รวมถึงผู้ประกอบการภายในสวนอุตสาหกรรม 304 ให้พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง เปิดรับโอกาส ความท้าทายและการแข่งขัน”
ไฮไลต์ความร่วมมือ
- โครงข่ายอัจฉริยะเพื่อการบริหารจัดการเครือข่ายแบบมืออาชีพ – เอไอเอสนำศักยภาพ 5G และโครงข่ายใยแก้วนำแสง มาเสริมความเสถียร ความปลอดภัย ภายในสวนอุตสาหกรรม พร้อมยกระดับสู่ Smart Industry 4.0 ผ่านการเชื่อมต่ออุปกรณ์และเครื่องจักรได้อย่างต่อเนื่อง และนำเทคโนโลยี Smart Meter มาช่วยบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดสูญเสีย และเพิ่มความโปร่งใสของข้อมูลการใช้พลังงาน
- สวนอุตสาหกรรม 304 ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล – เดินหน้าพัฒนา “โครงข่ายอัจฉริยะ” เสริมขีดความสามารถผู้ประกอบการที่ต้องการความเสถียร ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมสมัยใหม่ในสวนอุตสาหกรรมปัจจุบันมีการใช้น้ำและพลังงานรวมถึงพลังงานหมุนเวียนในระดับสูง สามารถนำเทคโนโลยี 5G, Fibre มาบริหารจัดการเสริมศักยภาพในการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้การบริหารจัดการทั้งหมดโดย NPS ซึ่งยังรวมถึงช่วยดึงดูดนักลงทุนใหม่เข้ามาในพื้นที่ได้อีกด้วย
- ตอกย้ำบทบาท AIS ในฐานะ Digital Enabler ของภาคอุตสาหกรรม – ปัจจุบันเอไอเอสเข้าไปยกระดับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC ด้วย 5G ครอบคลุม 100% ของทุกนิคมอุตสาหกรรม และความพร้อมในการให้บริการเครือข่าย Fibre ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเร่งทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต บริหารต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น และการสนับสนุนพลังงานสะอาด
ประโยชน์ที่ผู้ประกอบการและนิคม/สวนอุตสาหกรรมจะได้รับ
- ความเสถียรและความปลอดภัยของโครงข่ายสูงขึ้น รองรับการผลิตอัตโนมัติ การเชื่อมต่อ IoT และการใช้งานข้อมูลแบบเรียลไทม์
- บริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยข้อมูลจาก Smart Meter ชัดเจน ตรวจสอบได้ ลดความสูญเสียและต้นทุนพลังงาน
- ความพร้อมในการขยายธุรกิจ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระดับอุตสาหกรรม รองรับผู้ประกอบการรายใหม่และการย้ายสายการผลิตเข้าสู่ นิคมอุตสาหกรรมไทย