- บาท - (-%)

เอไอเอส จับมือ สวนอุตสาหกรรม 304 และ National Power Supply นำศักยภาพ AIS Fibre, 5G พร้อมโซลูชั่น Smart Meter ยกระดับสู่ Smart Industry 4.0

06 พฤศจิกายน 2568

“AIS Business” ผู้ให้บริการดิจิทัลโซลูชั่นสำหรับภาคธุรกิจ ล่าสุดเดินหน้าจับมือ สวนอุตสาหกรรม 304 และ NPS พร้อมยกระดับการบริหารจัดการโครงข่ายอัจฉริยะ AIS Fibre และ 5G ควบคู่โซลูชั่น Smart Meter ร่วมเสริมศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในพื้นที่สวนอุตสาหกรรม 304 สู่ Smart Industry 4.0 ตอกย้ำบทบาท "Digital Enabler" สร้างความพร้อมในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพ ความเสถียร และความคุ้มค่า ตลอดจนดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมสมัยใหม่

นายสมภพ กิตติวิรุฬห์วัฒน หัวหน้างานปฏิบัติการภูมิภาค-ภาคตะวันออก เอไอเอส กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนบทบาทของเอไอเอสในฐานะ Digital Enabler ที่นำโครงข่ายอัจฉริยะและโซลูชันบริหารจัดการพลังงานมาช่วยเสริมศักยภาพ Smart Industry 4.0 ของสวนอุตสาหกรรม 304 เรามุ่งสร้างโครงข่ายที่เสถียร ปลอดภัย และยืดหยุ่น รองรับการเชื่อมต่อของเครื่องจักร ระบบ IoT และแพลตฟอร์มบริหารจัดการพลังงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม ปัจจุบันเอไอเอสเข้าไปยกระดับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออกและ EEC ด้วย 5G ครอบคลุม 100% ของทุกนิคมอุตสาหกรรม และความพร้อมในการให้บริการเครือข่าย Fibre ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเร่งทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต บริหารต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น สำหรับความร่วมมือกับสวนอุตสาหกรรม 304 และ NPS ในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญต่อการทำงานกับภาคธุรกิจในภาคตะวันออกที่นับว่าเป็นอีกพื้นที่ศักยภาพด้านการผลิต โดยเราได้วาง Digital Infrastructure จากโครงข่ายอัจฉริยะ 5G และ Fiber Optic เพื่อให้พร้อมรองรับและเสริมศักยภาพการบริหารจัดการ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการภายในสวนอุตสาหกรรม 304 สามารถใช้ศักยภาพจากโครงข่ายสัญญาณได้เต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งบริการ Smart Solution ต่างๆ อาทิ 5G Private Network, 5G Smart factory ระบบบริหารจัดการโรงงานอัจฉริยะ, Smart meter , Environment sensor, Smart tracking ระบบอุปกรณ์ติดตามรถ, บริการจัดเก็บข้อมูล on cloud ในรูปแบบ Enterprise Cloud, CCTV and video analytics, Smart parking และอื่น ๆ ที่เรามีความพร้อมในการพัฒนาเพื่อร่วมกันยกระดับภาคอุตสาหกรรมของจังหวัดปราจีนบุรี และฉะเชิงเทราให้มีขีดความสามารถและพร้อมแข่งขันในอนาคตต่อไป”

ด้านคุณกิตติพันธ์ จิตต์เป็นธรรม หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร สวนอุตสาหกรรม 304 กล่าวว่า “สวนอุตสาหกรรม 304 พัฒนาโครงการมาแล้วกว่า 30 ปี ครอบคลุมพื้นที่ 20,000 ไร่ ทั้งในจังหวัดปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 170 บริษัท กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก เช่น  ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) เยื่อและกระดาษ เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่มีความต้องการใช้น้ำและไฟในการผลิตจำนวนมากรวมถึงพลังงานหมุนเวียน ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก NPS ในการบริหารจัดการสาธารณูปโภคทั้งหมดในโครงการให้ลูกค้าได้รับตามความต้องการและก้าวไปอีกขั้นด้วยการร่วมมือกับ AIS ในการพัฒนาโครงสร้างโครงข่ายอัจฉริยะในครั้งนี้ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับโครงข่ายสัญญาณภายในสวนอุตสาหกรรม 304 ให้เป็น Smart Industry 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อทั้งลูกค้าปัจจุบันและในอนาคตที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการที่มีความเสถียร ปลอดภัย และประสิทธิภาพสูง

ด้านคุณกฤตย์ดิศร กรเกศกมล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงินและการพาณิชย์ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ NPS กล่าวว่า “NPS เรามุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายพลังงานที่มั่นคงและยั่งยืน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการในสวนอุตสาหกรรม 304 รวมถึงการพัฒนาระบบนิเวศของพลังงานหมุนเวียนที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการบรรลุเป้าหมาย Net Zero อย่างรวดเร็ว ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการผลิตตลอดจนการขนส่ง ด้วยไฟฟ้าโซลาร์-ชีวมวลผสมผสาน น้ำอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ และกรีนโลจิสติกส์กว่า 200 คัน ซึ่งความร่วมมือกับ AIS ในครั้งนี้ NPS ได้เพิ่มอีกบทบาทสำคัญในการร่วมบริหารโครงข่ายสัญญาณ AIS Fibre และ 5G ที่จะช่วยเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการภายในสวนอุตสาหกรรม 304 ให้สามารถยกระดับการบริหารจัดการในปัจจุบันไปสู่ระบบอัจฉริยะต่างๆที่จะช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้ เช่น NPS เองก็ได้นำ Smart Meter มาใช้ในการบริหารจัดการพลังงานอีกด้วย”

สวนอุตสาหกรรม 304 และ NPS ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า “การสร้างความร่วมมือกับเอไอเอสคร้ังนี้จะช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและพลังงานของสวนอุตสาหกรรม 304 ให้พร้อมรองรับนักลงทุนเป้าหมายมากยิ่งขึ้น”

นายสมภพ กล่าวในช่วงท้ายว่า “AIS ในฐานะองค์กรเทคโนโลยีโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-CO ยังคงเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลเทคโนโลยีที่สามารถส่งมอบประสบการณ์รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพการทำงานของพาร์ทเนอร์ เพราะเราเชื่อว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีที่แข็งแรงจะมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมและการผลิต ซึ่งจะช่วยยกระดับศักยภาพภาคการผลิตของนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก รวมถึงผู้ประกอบการภายในสวนอุตสาหกรรม 304 ให้พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง เปิดรับโอกาส ความท้าทายและการแข่งขัน”

ไฮไลต์ความร่วมมือ

  1. โครงข่ายอัจฉริยะเพื่อการบริหารจัดการเครือข่ายแบบมืออาชีพ – เอไอเอสนำศักยภาพ 5G และโครงข่ายใยแก้วนำแสง มาเสริมความเสถียร ความปลอดภัย ภายในสวนอุตสาหกรรม พร้อมยกระดับสู่ Smart Industry 4.0 ผ่านการเชื่อมต่ออุปกรณ์และเครื่องจักรได้อย่างต่อเนื่อง และนำเทคโนโลยี Smart Meter มาช่วยบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดสูญเสีย และเพิ่มความโปร่งใสของข้อมูลการใช้พลังงาน
  2. สวนอุตสาหกรรม 304 ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล – เดินหน้าพัฒนา “โครงข่ายอัจฉริยะ” เสริมขีดความสามารถผู้ประกอบการที่ต้องการความเสถียร ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมสมัยใหม่ในสวนอุตสาหกรรมปัจจุบันมีการใช้น้ำและพลังงานรวมถึงพลังงานหมุนเวียนในระดับสูง สามารถนำเทคโนโลยี 5G, Fibre  มาบริหารจัดการเสริมศักยภาพในการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้การบริหารจัดการทั้งหมดโดย NPS ซึ่งยังรวมถึงช่วยดึงดูดนักลงทุนใหม่เข้ามาในพื้นที่ได้อีกด้วย
  3. ตอกย้ำบทบาท AIS ในฐานะ Digital Enabler ของภาคอุตสาหกรรม – ปัจจุบันเอไอเอสเข้าไปยกระดับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC ด้วย 5G ครอบคลุม 100% ของทุกนิคมอุตสาหกรรม และความพร้อมในการให้บริการเครือข่าย Fibre ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเร่งทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต บริหารต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น และการสนับสนุนพลังงานสะอาด

ประโยชน์ที่ผู้ประกอบการและนิคม/สวนอุตสาหกรรมจะได้รับ

  • ความเสถียรและความปลอดภัยของโครงข่ายสูงขึ้น รองรับการผลิตอัตโนมัติ การเชื่อมต่อ IoT และการใช้งานข้อมูลแบบเรียลไทม์
  • บริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยข้อมูลจาก Smart Meter ชัดเจน ตรวจสอบได้ ลดความสูญเสียและต้นทุนพลังงาน
  • ความพร้อมในการขยายธุรกิจ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระดับอุตสาหกรรม รองรับผู้ประกอบการรายใหม่และการย้ายสายการผลิตเข้าสู่ นิคมอุตสาหกรรมไทย