พลังงานชีวมวล แนวโน้มธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลจากพลังงานทดแทน | NPS

01 December 2022

พลังงานชีวมวล พลังงานชีวมวลคืออะไร รูปแบบของพลังงานชีวมวล และแนวโน้มธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน)

พลังงานชีวมวล

พลังงานชีวมวล คืออะไร?

พลังงานชีวมวล คือ พลังงานที่ได้จากการแปรรูปวัสดุชีวมวลและสารอินทรีย์ประเภทต่าง ๆ อาทิ วัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตร ขยะอินทรีย์ มูลปศุสัตว์ กากจากพืช รวมถึงพืชเชื้อเพลิงชนิดต่าง ๆ ด้วยการเผา การหมัก การบ่มก๊าซเพื่อผลิตเป็นพลังงานความร้อนหรือก๊าซ หรือนำผลผลิตเหล่านี้ไปแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้า

รูปแบบของพลังงานชีวมวล และวัตถุดิบที่นำมาใช้ผลิต

โดยทั่วไปแล้ว พลังงานชีวมวลเป็นพลังงานที่มีรูปแบบหลากหลาย ทั้งพลังงานความร้อน ของเหลว ก๊าซ ฯลฯ ตามกระบวนการผลิตที่มีทั้งการเผา การหมัก การบ่มก๊าซ หรือกรรมวิธีอื่น ๆ ในแง่ของวัสดุที่นำมาใช้ผลิต พลังงานจากชีวมวลจะเป็นพลังงานที่ได้จากพืชเชื้อเพลิงชนิดมีเส้นใยเป็นหลัก เช่น ได้แก่ ฟางข้าว แกลบ ชานอ้อย กากมันสำปะหลัง ซังข้าวโพด เศษไม้ กะลามะพร้าว เป็นต้น

การแปรรูปพลังงานชีวมวลเป็นพลังงานไฟฟ้า

พลังงานชีวมวลเริ่มต้นจากการนำวัสดุชีวมวลประเภทต่าง ๆ ไปผ่านกระบวนการแปรรูปเพื่อให้ได้ผลผลิตในรูปพลังงานความร้อนหรือก๊าซ จากนั้นจึงนำไปแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้าด้วยการใช้ประโยชน์จากไอน้ำร่วมกับกระบวนการของโรงงานไฟฟ้าพลังงานความร้อน

ประโยชน์ของพลังงานชีวมวลที่นอกเหนือจากการผลิตพลังงาน

  • พลังงานชีวมวลเป็นพลังงานหมุนเวียนที่สามารถผลิตได้อย่างไม่จำกัด ไม่เหมือนพลังงานฟอสซิลที่ใช้แล้วหมดไป
  • พลังงานจากชีวมวลมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับพลังงานฟอสซิล
  • เหมาะสำหรับประเทศเกษตรกรรม เนื่องจากหาวัตถุดิบได้ง่าย และสามารถใช้วัตถุดิบได้หลากหลาย
  • เป็นกรรมวิธีหนึ่งในการจัดการของเหลือจากภาคการเกษตร ปศุสัตว์ อุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพ
  • ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับของเหลือใช้ทางการเกษตรและอุตสาหกรรม เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร
  • กระบวนการเผาไหม้ของโรงไฟฟ้าชีวมวลส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าโรงงานไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ

อนาคตประเทศไทยกับโรง ไฟฟ้าพลังงานทดแทน

สำหรับประเทศไทยนั้นมีอัตราการพึ่งพาการนำเข้าพลังงาน ก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันดิบจากต่างประเทศค่อนข้างสูง กระทรวงพลังงานจึงได้จัดทำแผนพลังงานชาติ โดยมุ่งกำหนดเป้าหมายในการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ให้สอดรับกับทิศทางของประเทศมหาอำนาจ รวมทั้งยังสนับสนุนการเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ หรือ พลังงานสะอาดแทนถ่านหิน และตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2561 – 2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 ยังกำหนดสัดส่วนการผลิตเชื้อเพลิงสะอาดและก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 55% และถ่านหินอยู่ที่ 18% พร้อมเตรียมปลดโรงไฟฟ้าเก่าที่มีประสิทธิภาพต่ำออกจากระบบ และเพิ่มสัดส่วนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น ทั้งโรงไฟฟ้าชีวมวล ชีวภาพ โซลาร์ฟาร์ม ขยะ และการรับซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากลาว เป็นต้น เพราะจากนี้ไป ประเทศต่าง ๆ มีแนวโน้มที่จะนำเรื่องการใช้พลังงานสะอาดมาตั้งกำแพงภาษีสำหรับสินค้าที่ส่งออกไปยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทำให้ในอนาคตการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนจะมีความสำคัญมากขึ้นด้วย ดังนั้น การจัดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เช่น โรงไฟฟ้าชีวมวล ถือได้ว่าเป็นแนวทางในการลดการพึ่งพาการขำเข้าพลังงานที่มีประสิทธิภาพด้วยปัจจัยสนับสนุนจากการเป็นประเทศเกษตรกรรม ซึ่งวัสดุหรือผลิตผลเหลือใช้ทางการเกษตรส่วนใหญ่มักถูกทำลายหรือปล่อยทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ แต่การผลิตพลังงานจากชีวมวลจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับของเสียเหล่านั้น กลายเป็นการสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกรได้เป็นอย่างดี

ธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน)

บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ ‘NPS’ ดำเนินธุรกิจด้านพลังงาน พลังงานหมุนเวียน และโรง ไฟฟ้าพลังงานทดแทนมากว่า 30 ปี โดยมุ่งให้ความสำคัญกับการศึกษา วิจัย และพัฒนาเชื้อเพลิงชีวมวลและพลังงานจากชีวมวลเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจ รวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านพลังงานที่เน้นไปที่การใช้วัสดุจากธรรมชาติที่หลากหลาย เช่น โครงการใช้เศษวัสดุทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว ใบอ้อย ซังข้าวโพด ไม้สับ เปลือกไม้ รากไม้ และของเหลือใช้จากอุตสาหกรรมการผลิตเยื่อและกระดาษมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า โดยเลือกใช้เทคโนโลยีเตาเผาแบบหมุนเวียน (Circulating Fluidized Bed: CFB) ที่มีระบบเผาไหม้แบบสมบูรณ์ สามารถเผาไหม้เชื้อเพลิงได้หลายประเภท ช่วยลดการเกิดไนโตรเจนออกไซด์ โดยเถ้าที่ได้หลังกระบวนการเผาไหม้ยังถูกนำไปผลิตปูนซีเมนต์ จึงไม่มีของเหลือทิ้ง ทำให้ NPS มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวลนำเป็นอันดับที่หนึ่งของไทย อีกทั้งช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนและลดปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศได้เป็นอย่างดี

แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน)

ในปัจจุบัน กำลังการผลิตไฟฟ้าชีวมวลของ NPS นั้นจะถูกส่งขายให้กับลูกค้าหลายกลุ่ม โดย NPS เป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับภาครัฐ และยังมีการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับภาคเอกชน โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าในสวนอุตสาหกรรม 304 มากกว่า 100 ราย และยังมีแนวโน้มที่ลูกค้าบางส่วนจะขอเพิ่มปริมาณการใช้ไฟมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ NPS ยังส่งเสริมการปลูก “ต้นพลังงาน” หรือพืชที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาให้มีคุณลักษณะพิเศษ คือ เนื้อไม้ให้ค่าความร้อนสูง เหมาะสำหรับการนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ทั้งยังโตเร็ว ใช้เวลาปลูกเพียง 2-3 ปีเพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้า ดังนั้น ภายใต้จุดแข็งในการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เชื้อเพลิง ไปจนถึงการผลิตไฟฟ้า จึงทำให้ NPS เติบโตอย่างก้าวกระโดด ยังไม่รวมถึงการเข้าซื้อบริษัทผลิตไฟฟ้า Biomass Energies d’ Alizay (BEA) ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จะจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝรั่งเศส (EDF) ตามสัญญาระยะเวลา 20 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดในปี 2576 และปัจจุบันได้อนุมัติต่อสัญญารับซื้อไฟฟ้าจาก BEA ต่อไปอีกจนถึงปี 2581 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะทำให้ NPS สามารถเพิ่มโอกาสในการขยายการลงทุนในโรงไฟฟ้าชีวมวลในประเทศฝรั่งเศส และทวีปยุโรปโดยใช้ BEA เป็นฐานในการขยายธุรกิจ และยังมีโครงการร่วมทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม BPP กำลังผลิตติดตั้ง 600 MW ซึ่งจะสร้างแล้วเสร็จและเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยภายในปี 2570 ที่จะถึงนี้