“ต้นพลังงาน” แหล่งสร้างรายได้เสริมและพลังงานหมุนเวียนที่ยั่งยืน
โรงไฟฟ้าเอ็นพีเอส ให้ความสำคัญกับการปลูกไม้พลังงานเพื่อเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าและสร้างอาชีพเสริมให้เกษตรกรและชุมชน โดยได้คิดค้นและพัฒนา “ต้นพลังงาน” เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรนำไปปลูกตามพื้นที่ว่างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ โดยเกษตรกรที่ปลูกต้นพลังงานสามารถสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว โดยใช้เวลาปลูกเพียง 2-3 ปีเท่านั้น ซึ่งเกษตรกรไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพิ่ม เพราะสามารถใช้พื้นที่ว่าง เครื่องมือที่ว่าง และแรงงานของตนเอง ที่ว่างจากฤดูเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวพืชหลักมาปลูกต้นพลังงานเพื่อเพิ่มมูลค่าสำหรับการทำเกษตรกรรม ดังนั้นต้นพลังงานจึงสามารถตอบโจทย์ได้ในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นภาคพลังงานที่สามารถตอบสนองด้านความยั่งยืนและมั่งคงของแหล่งพลังงาน ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างรายได้เสริมที่นำมาสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่เกษตรในภาคการเกษตร
“ต้นพลังงาน” ผ่านการวิจัยและพัฒนาให้มีคุณลักษณะพิเศษคือ เนื้อไม้ให้ค่าความร้อนสูง เหมาะเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ใช้เวลาปลูกไม่นาน เพียง 2-3 ปีนอกจากเป็นหนึ่งทางออกของการแสวงหาพลังงานทดแทนของประเทศและของโลกแล้ว “ต้นพลังงาน” ยังเป็นแหล่งสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรและชุมชน โดยเกษตรกรที่ปลูกต้นพลังงานสามารถสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว โดยจะมีรายได้เสริมประมาณ 9,000 บาทต่อไร่ นอกจากนี้การปลูกต้นพลังงาน ยังช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนได้ โดยต้นพลังงาน 1 ต้น ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 60 กิโลกรัม ซึ่งหากนับรวมต้นพลังงานที่มีการส่งเสริม ให้ปลูกไปแล้วกว่า30 ล้านต้น นับได้ว่าเอ็นพีเอส ได้มีส่วนช่วยในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1.8 ล้านตันเลยทีเดียว
ตราบใดที่ยังมีดิน, น้ำ, แสงแดด และคาร์บอนไดออกไซด์ตราบนั้นเราจะยังคงมีพลังงานไฟฟ้าใช้ไม่รู้จบ เพราะต้นพลังงานทุกต้นที่ปลูกในวันนี้ คือเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้าในวันหน้า